รายได้ 4 แบบที่คุณต้องหา
1. รายได้ประจำหรือ Recurring Income
ในช่วงเริ่มทำงานใหม่ๆแน่นอนว่าคงมาจากเงินเดือนจากงานประจำ รายได้โซนนี้ไม่จำเป็นต้องมากมายเลยครับ ขอแค่มันครอบคลุมรายจ่ายประจำทุกเดือนพวกค่าห้อง ค่ารถ ค่ากิน ค่าโทรศัพท์ ค่าดูหนังฟังเพลงให้เราผ่อนคลายนิดหน่อยก็พอ ยิ่งคุณใช้ชีวิตง่ายๆสบายๆไม่ติดหรู คุณจะหลุดจากโซนแรกนี้ง่ายมาก เพื่อไปหาเงินต่อในโซนถัดไป
2. รายได้แบบค่าเช่า ค่าคอมหรือ Rental Fee
พวกนี้ต้องอาศัยเงินต้นหรือการลงทุนลงแรงเพื่อสร้างฐานลุกค้าครับ มันเป็นการสร้างรายได้จากคนหมู่มากคนละนิดคนละหน่อย โดยเราไม่ต้องลงแรงมาก สิ่งที่”เหมือนกัน”กับฐานรายได้แบบที่ 1 คือความนิ่งของเงินที่เข้ามาแต่สิ่งที่”ต่างกัน”คือการลงแรงกับเวลาครับ ฐานรายได้แรกคือการที่คุณเอาเวลาไปแลกเงิน แต่ฐานรายได้ที่สองคือการเอาฐานลุกค้าไปแลกเงิน ไม่เหมือนกันนะ
ถ้าคุณสร้างฐานรายได้สองแบบแรกไปแล้ว เราจะได้อิสรภาพในการคิดและการทำอะไรที่มากขึ้นครับ เมื่อรายจ่ายรายเดือนมีรายเข้ามาอุดให้แล้ว เฟสของการหาเงินต่อจากนี้มันคือ “การเติบโต” และการ “ยกระดับฐานะ” แล้ว
3.รายได้จากส่วนต่างหรือ Capital Gain
รายได้พวกนี้ขาดความแน่นอนอย่างมากครับ อาจจะได้หรือไม่ได้เงิน หรืออาจจะเสียเงินด้วยซ้ำ รายได้พวกนี้เริ่มมีความเสียงของเงินต้นเข้ามาเกี่ยว เช่น การลงทุนทำธุรกิจ การเล่นหุ้น ซึ่งต้องอาศัยฝีมือและประสบการณ์ในการวัดเพื่อให้เงินงอกเงย ถุกทางได้เงินก้อน ผิดทางก็เสียเงินถุงได้เหมือนกัน และนั่นคือที่มาว่าทำไมคุณต้องปูฐานรายได้จากแบบที่หนึ่งและสองมาก่อน การกระโดดมาสามเลยโอกาสเจ๊งสูงครับ
4. รายได้ส่วนแบ่งกำไรหรือ Profit Sharing
ฐานรายได้ที่สี่มีความไม่แน่นอนเหมือนข้อสามครับ และต้นทุนที่ต้องใช้คือ “แรง” และ “เวลา” มันเหมือนการไปทำโปรเจคอะไรก็ตาม ที่ถ้าจบเราจะได้ส่วนแบ่งกำไรตามที่ตกลงกัน แต่ถ้าไม่จบก็ถือว่าปลิวทั้งทีม ข้อดีของฐานรายได้แบบนี้คือมันสเกลตามยอดขายครับ สมมติถ้าคุยกันที่ Sharing กันที่ 20 % ถ้ายอดเข้ามา 1 ล้านคุณก็ได้สองแสน ถ้ายอดเข้ามา 10 ล้านคุณได้ไปแล้วสองล้าน เผลอๆมันมากกว่าที่คุณเคยทำมาทั้งปีด้วยซ้ำ
ทุกครั้งที่ได้รับงานใหม่ๆ หรือโปรเจคใหม่ๆ ลองมาจัดประเภทดูครับว่ามันอยู่ในฐานรายได้แบบไหน
จัดสัดส่วนให้ดีจะช่วยในการตัดสินใจได้เยอะแน่นอน
++++++++++++++++++++