2020 change or nothing !!
ผมได้มาทั้งหมด3ไอเดีย
กลุ่มที่ 1 ” เซเว่นเเม่งโคตรโหดเลย “ >>> มาในมุมยักษ์ใหญ่เบียดเบียนยักษ์เล็ก ดูดิซีพีเอาอีกเเระ จะกินรวบไปถึงไหน ชาวบ้านเค้าเดือดร้อนกันหมด เเบบนี้ผู้ประกอบการรายเล็กๆจะอยู่ได้ไงวะ !!?
กลุ่มที่ 2 ” คนที่ปรับตัวไม่ทัน สายป่านสั้นนี่เละว่ะ “ >>> มาในมุมคนทำธุรกิจ คนที่เช้าใจกลไกของ Capitalism เข้าใจความโหดร้ายของโลกการเงิน รู้จักคำว่า Winner Takes all and and all and all …..
กลุ่มที่ 3 ” ถ้ามึงเป็นสองตู้ที่เหลือ มึงจะทำไงต่อ ” >>> เออ อันนี้เข้าท่าเเฮะ !! ลองคิดดูเล่นๆครับว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของสองตู้ที่เหลือจะทำยังไง หรือถ้าคิดจะเข้ามาเล่นเกมส์นี้ด้วยเป็นตู้ที่ 4 คุณจะเอาอะไรมาขาย
…ไอเดียผม ??
** มองในมุมคนหุ้น>>> CPALL วันนี้มูลค่าตลาด7 เเสนกว่าล้าน + Operating Cash flow ปีละสี่หมืนกว่าล้าน ส่วนตู้บุญเติมข้างๆเป็นของ FSMARTวันนี้โดนทุบเปรี้ยงลงมาเหลือ 6.6 บาท มูลค่าตลาดไม่ถึง 6 พันล้านนั่นหมายถึง7-11 สามารถOffer ซื้อทั้งบริษัทได้เลย (ุถ้าเจ้าของ OK ที่จะลุยในดีลนี้) เพราะฉะนั้นเรื่อง Size หน้าตักทีมีวัดกันไม่ไหวครับ
** มองในมุมคนทำธุรกิจ>>> ตู้ซ้ายสุดมาเป็นตู้เเรกครับ ผมเองก็ไปซื้อบ่อยๆ เเละที่ใดก็ตามที่คนคึกคัก ที่นั่นสินค้าจะขายได้ ที่ใดสินค้าขายได้ดีจะมีมาร์จิ้นที่ดีตาม เเละที่ใดมีมาร์จิ้นที่ดีงามจนเกินไป ไม่ต้องเเปลกใจที่คนอื่นจะเข้ามาเล่นด้วย เเละเเข่งกันจนมาร์จิ้นกลับไปที่ค่าเฉลี่ยในที่สุด เเละนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวงการธุรกิจ เพราะฉะนั้นการรวยเงียบๆไม่ต้องบอกใครอาจเป็นหนึ่งในเคล็ดลับเเห่งความสำเร็จ
** มองในมุมการตลาด>>> ผมไม่รู้ว่าเซเว่นทำResearch มาเยอะเเเค่ไหน ุเเต่ถ้าเป็นผม สินค้าที่เลือกมาวางในตู้จะคัดมาจาก Data ของร้านเซเว่นในรัศมี1 กม. ทัังหมดจากบริเวณคอนโด เพื่อหา Repurchase Product มาวางโดยที่ลุกค้าเเทบไม่ต้องเดินไปที่ร้าน ถ้าของใกล้หมดก็ยิง dataไปที่สาขาใกล้เคียงเพื่อให้พนักงานมา refill ของให้มีโวลุ่มตลอด
โลกธุรกิจมันจะเป็นเเบบนี้เรื่อยๆครับ ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ ไม่ว่าคุณจะด่าบริษัทใหญ่อย่างเสียๆหายๆ เเต่โลกเเห่งทุนนิยม โลกเเห่งความเป็นจริงมันจะเป็นเเบบนี้ รุนเเรงกว่านี้ จนกระทั่งคุณจากโลกนี้ไปเเล้ว มันก็จะยังเป็นเหมือนเดิม
บริษัทใหญ่ๆเค้าเองก็ต้องโคตรขยันครับ เค้าต้อง Disrupt ตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพราะคู่เเข่งที่เค้าเจอ ผมเชื่อว่ามันใหญ่เบิ้มเหมือนกัน
ถ้าวันนี้่คูเเข่ง Netflix คือการนอน ผมว่าคู่เเข่ง 7-11ไม่ใช่สะดวกซื้อร้านอื่นเเต่มันกลายเป็น Grab food หรือ line man ไปเเล้วซะงั้น
อุตสาหกรรมอาหารมันเป็นสงคราม “เเย่งปาก” คน การเเข่งขันมันพันกันไปหมด Cross Sector กันให้วุ่นวาย
เจ้าของธุรกิจวันนี้ไม่มีเท่ห์ครับ ที่เห็นในปกนิตยสารสวยๆนี่เเค่ 1 ใน 100 ชีวิตจริงนี่เหนื่อยเเบบชิบหายวายป่วง คิดกันตลอด 24 ชั่วโมง ปรับตัวกันตลอด 7 วัน
ถ้าวันนี้คุณเป็นผู้ประกอบการรายเล็กๆ
เห็นภาพนี้ไม่ต้องบอกว่าสู้ๆนะ
เพราะยังไงคุณต้องสู้ยิบตาอยู่เเล้ว
เเละสุดท้ายเเล้วถ้าเรายังดื้อไม่ยอมเปลี่ยน
#โลกจะบังคับให้เราเปลี่ยนเองครับ
++++++++++++++++++++